อดีตสามีโพสต์แคปชั่นล่อเป้า แอฟ ทักษอร ลั่นไม่ขอโฟกัสเรื่องอื่น
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ แอฟ ทักษอร ได้ออกมาตอบคำถามเรื่องการนัดหมายเวลาให้ลูกสาว น้องปีใหม่ ได้ไปเจอกับครอบครัวของ สงกรานต์ เตชะณรงค์ ได้ไม่ทันไร ฝ่ายอดีตสามีก็โพสต์แคปชั่นล่อเป้าทำเอาชาวเน็ตมองว่าโพสต์ข้อความแขวะอดีตภรรยา ล่าสุดได้เจอสาวแอฟที่งานบวงสรวงละครเรื่อง ขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ ก็ไม่พลาดที่จะขอสอบถามถึงเรื่องนี้ ซึ่งสาวแอฟเผยว่า
น้องปีใหม่ได้พรีเซ็นเตอร์งานใหญ่?
“แอฟดีใจที่น้องได้ทำงานนี้ แอฟไม่ได้มองว่าเป็นงานใหญ่หรือได้เงินมาก เงินน้อย แต่ดีใจที่เค้าได้งานที่เหมาะกับเค้า อย่างในโฆษณาก็เป็นไลฟ์สไตล์ของเด็ก เราอยากให้เค้าได้ทำอะไรเป็นตัวของตัวเอง มันเป็นเรื่องที่เค้าชอบ ร้องเพลง เต้น เล่นกับเพื่อน ได้งานที่ตรงกับคาแรกเตอร์หรือเหมาะกับเค้า เป็นเรื่องที่ดีไม่อยากไปฝืนให้ยืนขายของ ไม่ใช่ตัวเค้า”
เตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
“แอ็กติ้งไม่ได้เตรียม เด็กมีธรรมชาติในการแสดงออกมาอยู่แล้ว เผลอๆ มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าเรา ไม่รู้จะสอนอะไรเค้า แต่ก่อนไปทำงานก็มีการเตรียมตัวเยอะมาก ในหนังมีต้องร้องเพลง ต้องเต้น ก็ไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราว
เป็นการไปเรียนเต้นแบบจริงจังเป็นทางการครั้งแรก ลูกมีความสุขตอนที่ทำ และเค้าดีใจที่ได้ไปเรียนเต้นปกติแม่ไม่ได้ให้ไปเรียน เค้ามีความสุขในทุกขั้นตอน พูดง่ายมาก ปกติจะไม่ชอบนอนกลางวัน แต่วันนั้นบอกว่าถ้าไม่นอนตอนบ่ายจะไม่ได้ถ่ายต่อนะ พอกินข้าวเสร็จเค้าก็รีบนอนเลย (ยิ้ม)”
ปลื้มมากแค่ไหน?
“ก็เปิดให้เค้าดูในยูทูบ แค่ปีใหม่คนเดียวก็ร้อยกว่าวิวแล้วค่ะ (หัวเราะ)”
มีงานติดต่อมาเยอะมั้ย?
“มีติดต่อมาเรื่อย แต่ก็ดูตามความเหมาะสม มันเข้ากับน้องมั้ย ถ้ามันฝืนเดี๋ยวแม่ทำเอง”
เค้ามีบอกมั้ยว่าอยากทำอันนี้?
“เค้าไม่ได้บอกว่าอยากทำอีก แต่เวลามีติดต่อมาก็จะบอกเค้า ถามเค้าว่าอยากทำมั้ย เค้าก็จะบอก”
ซุป’ตาร์ตัวน้อย?
“เพิ่งเริ่มได้งานเดียวเองค่ะ (หัวเราะ)”
ขอถามที่สงกรานต์โพสต์ถึงลูกสาว หลายคนมองว่าเหมือนแขวะเรา รู้สึกยังไงบ้าง ได้เห็นแคปชั่นบ้างมั้ย?
“ไม่เห็นค่ะ ตอนนี้ช่วงทำแอฟเริ่มทำงานจริงจัง ละครถ่ายมาประมาณ 10 คิว รู้สึกว่าแอฟต้องปัดฝุ่นเยอะ ต้องทุ่มเทพลังและสมาธิทั้งหมดมาที่งานและลูก ตอนนี้สองอย่าง จะเอาอย่างใดอย่างหนึ่งนำมันก็ยาก สำหรับแอฟมันสำคัญมากๆ ในชีวิตแอฟช่วงนี้ทั้ง 2 อย่าง อะไรที่มันไม่ได้ส่งเสริมในตอนนี้แอฟก็จะพยายามไม่โฟกัส”
มีคนมาบอกแอฟบ้างมั้ย?
“คนใกล้ตัวจริงๆ ไม่ค่อยมีค่ะ เค้าอาจจะรู้ว่าตอนนี้แอฟกำลังเครียดอยู่ เรามีสิ่งที่เราต้องโฟกัสอยู่”
แปลว่าเราก็ไม่ได้รับรู้เรื่องที่คนอื่นมอง?
“ตอนนี้ไม่ค่ะ ตอนนี้แค่เรื่องละครแอฟก็เครียดอยู่แล้ว บวกกับเรื่องลูกก็เครียด ต้องยอมรับเลยเพราะว่ามันเป็นช่วงที่เพิ่งเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ก็ค่อนข้างลงตัวแล้วค่ะว่าลูกเข้าใจว่าเรามาทำอะไรที่ไหนอยู่กับใคร เค้าก็ไม่รู้สึกว่า อุ๊ย เมื่อไหร่คุณแม่จะกลับบ้าน ไม่แล้ว
ตอนนี้เค้าก็เข้าใจแล้ว เค้าจะเปลี่ยนแนวเป็นคุณแม่ทำอะไร วันนี้คุณแม่ถ่ายฉากอะไร วันนี้คุณแม่ขับเครื่องบินรึเปล่า ก็จะไปทางด้านนั้นไป ทำให้เราเบาใจขึ้นเยอะว่าการที่เราออกมาทำงานไม่ได้ส่งผลกระทบกับลูก”
เวลาจะพาน้องปีใหม่ไปเจอครอบครัวทางคุณพ่อก็ยังติดต่อผ่านคุณปู่คุณย่าเหมือนเดิม?
“ก็ปกติค่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อย่างที่บอกที่แอฟเครียดเรื่องการทำงานและลูก เพราะเราไม่อยากทำอะไรเกี่ยวกับลูกให้มันเปลี่ยนแปลงเลย เราจะไม่ให้เกิดผลกระทบใดๆ กับลูกเลย เราต้องมีเวลาให้ลูกเท่าเดิมเหมือนเดิม”
เห็นว่าน้องปีใหม่วิดีโอคอลโทรตามตลอดเวลาถ่ายละคร?
“ตามตลอดค่ะ หลังเลิกเรียนก็คือตามยิกเลย เมื่ออาทิตย์ที่แล้ววันหยุดมีโอกาสพาเขามากองละคร ว่าเวลาแม่หายไป หายไปที่ไหนยังไง เขาจะได้หายห่วง ตอนนี้ก็เลยไม่กังวล วันนั้นตอนที่ปีใหม่มากองไม่เจอพี่ต่อ แต่เจอทุกคนในกองแล้ว”
ถามถึงเรื่องที่ น้องปีใหม่ งอนคุณแม่ร้องไห้เลย?
“ตอนแรกคุณแม่ไม่รู้ตัวเลย ตอนนี้ดีกันแล้ว ก็สัญญากันว่าจะไม่ไปดูเขาซ้อมบัลเลต์ เพราะเขาย้ำนักย้ำหนาว่าคือความลับ เขาอยากจะทำให้คุณแม่ภูมิใจในวันโชว์จริง อาทิตย์แรกแม่ก็ไม่ไปดู อาทิตย์ที่สองที่ไปดูเพราะหนึ่งคิดว่าไม่ได้ซีเรียสการที่เด็กห้าขวบจะบอกว่ามันเป็นความลับ
แล้วคือมีผู้ปกครองไปดูกันหมดเลย ปีใหม่จะเป็นคนเดียวที่แม่ไม่อยู่ได้ยังไง ก็กลัวลูกจะใจเสียเวลามองลงมาจากเวทีแล้วไม่เจอ คิดว่าเดี๋ยวเห็นหน้าแม่ก็ดีใจเองแหละ เปล่าค่ะ คือเขายึดเอาคำที่เขาสัญญาไว้กับแม่มากกว่าที่จะเห็นหน้าแม่ เขาก็เลยร้องไห้ด้วยความผิดหวัง”
เราตกใจแค่ไหนที่เห็นลูกร้องไห้หนัก?
“ตกใจมากค่ะ หน้าเสีย ใจหายไปถึงตาตุ่ม ไม่ได้เป็นอย่างนี้นานแล้ว รู้สึกว่าเราผิดจริง เราก็บอกลูก ก็ขอโทษลูก เราก็ยอมรับผิดเต็มประตูค่ะ”
นานมั้ยกว่าลูกจะหายงอน?
“ง้อยังไงเหรอ ก็ให้ทุกคนช่วย แล้วทุกคนน่ารักมาก อย่างผู้พันเบิร์ดส่งข้อความมาเลยว่าควรจะทำยังไง พี่เบิร์ดเป็นแฟมิลี่แมนมาก เขาจะมีวิธีพูดกับลูก เขาก็ไม่งอนหลายวัน เขาเป็นเด็กค่อนข้างเข้าใจแต่ก็ไม่ใช่ภายในวันนั้น”
ทำให้ครั้งต่อไปเวลาสัญญาอะไรกับลูกต้องจริงจัง?
“จริงๆ แล้วเราจำได้ ไม่ได้เป็นคนขี้ลืม แต่เราแค่ชั่งน้ำหนักในใจแล้วว่าระหว่างสัญญากับการที่เขามองแล้วไม่เห็นหน้าแม่ มั่นใจในตัวเองคิดว่าเขาจะต้องดีใจเวลาเห็นหน้าแม่ ปรากฏว่าไม่เลย เขารู้สึกว่าไม่เห็นหน้าแม่ตอนนั้นก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้คิดว่าลูกเราจะโตแล้ว”
ถือเป็นบทเรียนสำหรับคนเป็นแม่?
“ใช่ค่ะ ว่าถึงแม้เห็นเขาตัวเล็กๆ แบบนั้น เราก็ต้องฟังและเชื่อใจเขา คือตลอดเวลาเราฟังค่ะ แอฟเป็นคนฟังลูกตลอดแต่ว่าบางทีเราไม่ได้เชื่อใจว่าเขาจะไม่ใจเสียจริงๆ ใช่ไหม แต่จริงๆ คือเขาทำได้ ปีใหม่เขาก็โตขึ้น”
ติดตาม >> ข่าวบันเทิง << ได้ที่นี่และสามารถติดตาม >> ข่าวลิเวอร์พูล << ก่อนใครคลิกเลย