คริสต์มาส 25 ธันวาคม เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ที่ทั้งเมืองต้องมีสีสันสวยงาม ประดับประดา
คริสต์มาส 25 ธันวาคม ถึงช่วงปลายปีทีไร ชาวไทยอย่างเราๆก็มีเรื่องมีราวสังสรรค์อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่หรือวันคริสต์มาส ที่กำลังจะเข้ามาถึง ถึงแม้ว่าวันคริสต์มาสนี่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเกี่ยวเนื่องกับชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธสักเท่าไร แม้กระนั้นก็มีชาวไทยบางบุคคลที่นับถือศาสนาคริสต์อยู่จำนวนมาก ว่าแต่ว่าความเป็นมาวันคริสต์มาสเป็นมาเช่นไร วันนี้ Liverpool world มีข้อมูลมาฝาก
คำว่า “คริสต์มาส” เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse ที่หมายความว่า “บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า” ซึ่งเจอหนแรกในเอกสารโบราณที่เป็นภาษาอังกฤษในปี ค.ศ. 1038 และก็ในขณะนี้คำนี้ก็ได้แปลงมาเป็นคำว่า Christmas
เทศกาล Christmas หรือ X Mas ตรงกับวันที่ 25 ธ.ค. ของทุกปี ซึ่งวันที่ 25 ธ.ค.นั้นเป็นวันประสูติของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ โดยท่านประสูติที่เมืองเบธเลเฮมแล้วก็เติบโตที่เมืองนาซาเรท ซึ่งปัจจุบันนี้คือประเทศอิสราเอล ตามหลักฐานในพระตำราได้บันทึกไว้ว่า พระเยซูคริสต์เจ้าประสูติในยุคที่จักรพรรดิซีซาร์ ออกุสตุส แห่งจักรวรรดิโรมัน
ซึ่งทรงสั่งให้ลงทะเบียนสำมะโนประชากรทั่วทั้งแผ่นดิน โดยฝ่ายคีรีนิอัส เจ้าผู้ครองนครซีเรียก็รับหลักการไปปฏิบัติให้มีการขึ้นทะเบียนสำมะโนประชากรทั่วทั้งขอบเขต แต่ว่าในพระคัมภีร์ ไม่ได้ระบุว่าพระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร
ด้านนักประวัติศาสตร์ก็มีความเห็นที่ต่างออกไปโดยได้วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิเอาเรเลียนแห่งโรมัน กำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยเทพ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 274 ชาวโรมันซึ่งส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าฉลองวันนี้เสมือนว่า เป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย
เพราะจักรพรรดิก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์ แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริยเทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูซึ่งเปรียบเสมือนความสว่างของโลก
และเหมือนดวงจันทร์เป็นความสว่างในตอนกลางคืนแทน หลังจากที่ชาวคริสต์ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนาตั้งแต่ปี ค.ศ. 64-313 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ปี ค.ศ. 330 ชาวคริสต์จึงเริ่มฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและเปิดเผย
ช่วงคริสต์มาสก็เลยเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู และก็เป็นการสังสรรค์ความรักที่พระผู้เป็นเจ้ามีต่อมนุษย์โลก โดยส่งบุตรชาย เป็น “พระเยซู” ลงมากำเนิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยไถ่บาป รวมทั้งช่วยทำให้มนุษย์รอดพ้นจากการทำชั่วนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ในวันนี้นับว่าเป็นวันที่สื่อความหมายสำคัญต่อชาวคริสต์ทั่วทั้งโลก รวมทั้งมีการส่งบัตรอวยพร มอบของขวัญ แก่กันและกัน รวมถึงประดับตกแต่งบ้านเมืองด้วยแสงสว่าง รวมทั้งต้นวันคริสต์มาสอย่างงดงาม