แฮปปี้สีชมพู “เชน ณัฐวัฒน์” ควง “แพร พรรัมภา” หลังตกหลุมรักมานานกว่า 20 ปี

0
657
 

เชน ณัฐวัฒน์ นักแสดงหนุ่มมาดเข้มและแฟนสาว แพร พรรัมภา ออกมาเปิดใจถึงเส้นทางความรักกว่า 20 ปี เริ่มจากเพื่อนแปรเปลี่ยนเป็นแฟนในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร พร้อมเผยวีรกรรมความเจ้าชู้ของ เชน ในอดีตลั่นเลิกเจ้าชู้เพื่อสาว แพร คนเดียวนะจริงไหม และ ความรักสุกงอมถึงขั้นจะแต่งงานกันจริงหรือเปล่า 

ถาม-คบกันมากี่ปีแล้ว 

เชน : “ถ้าในฐานะเพื่อนก็เกือบ 20 ปี”

ถาม-เป็นแฟนกันมากี่ปีแล้ว 

แพร : “ถ้าเปิดตัวจริงๆ ประมาณ 2 ปี เริ่มมาสนิทกันจริงๆ 4-5 ปี”

ถาม-แต่เคยเจอกันมาก่อนหน้าเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว  เจอกันครั้งแรกหรือเปล่า 

เชน : “ใช่ เป็นเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้น วันนั้นเป็นวันเกิดสมัยเรียนอยู่ปี 1 เป็นคนไม่เที่ยวแต่โดนเพื่อนคะยั้นคะยอ เราก็ไปเจอเขาที่เที่ยวที่หนึ่งนั่งกินข้าวอยู่กับพี่สาว แต่เราไม่กล้า จนจะกลับบ้าน ถ้าพลาดโอกาสนี้ก็ไม่รู้จะเจอกันอีกเมื่อไหร่ เลยรวบรวมความกล้าเข้าไปขอ เขาก็ให้มาชื่อรัน”

แพร : “ก็คือโกหกชื่อ คือพี่สาวยัดเยียดให้เบอร์เชน ที่บ้านกลัวเราเป็นทอมเพราะเราเรียนหญิงล้วน ชอบดูแลเทคแคร์ผู้หญิง พี่สาวก็เป็นคนให้เบอร์เขา”

ถาม-แล้วให้เบอร์เราหรือเปล่า 

แพร : “ตอนนั้นยังเป็นเบอร์บ้านอยู่เลย”

ถาม-แล้วน้องรันคือใคร 

แพร : “มั่ว แต่งชื่อขึ้นมาเอง”

ถาม-ก่อนที่จะให้เบอร์มองหน้าแล้วถูกใจผู้ชายคนนี้มั้ย  

เชน : “ก่อนที่เขาจะเจอผมมีคนเข้าไปขอเยอะมากเลยนะ”

 ถาม-ทำไมเลือกให้คนนี้ 

แพร : “พี่สาวยัดเยียด พี่สาวเชียร์”

ถาม-ตอนนั้นเป็นไงหล่อมั้ย 

แพร : “ตอนนั้นไม่ได้มองว่าหล่อหรือไม่หล่อ”

เชน : “เขาชอบผู้หญิง คือปกติเขาไม่ได้ชอบมองผู้ชายเท่าไหร่ เพราะเขาชอบชมผู้หญิงสวย วันนั้นก็ต้องขอบคุณพี่สาวเขาที่ช่วย”

ถาม-ตอนที่เจอเขาครั้งแรกชอบอะไรในตัวเขา 

เชน : “มันเป็นความประทับใจแรก เราชอบผู้หญิงแบบนี้ บุคลิกแบบนี้ นิ่งๆ เราเข้าไปคุยก็ไม่สนใจ ชอบบุคลิกท่าทาง”

ถาม-ตอนได้เบอร์โทรเลยมั้ย 

เชน : “โทรวันต่อมา แล้วขอคุยกับรัน”

ถาม-ตอนขอคุยกับรันแล้วเป็นชื่อที่เราแต่งเราจำได้มั้ย 

แพร : “สาวเป็นคนตั้งให้รินกับรัน ตอนแรกให้พี่สาวคุย”

เชน : “เสียงเหมือนกันด้วย แล้วก็นัดกินข้าวแถวสยามดิสคัฟเวอร์รี่ เราก็พาเค้าไปกินทาโกะ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นไม่ได้ชอบกินทาโกะเลย จนเค้าจำมาจนถึงทุกวันนี้”

แพร : “แล้วสุดท้ายก็มารู้ว่าเขาไม่ได้ชอบกิน”

ถาม-แล้วเดทแรกไปกันกี่คน  พี่กับแม่ไปมั้ย 

แพร : “2 คน พี่กับแม่ไม่ได้ไป เป็นครั้งแรกที่ขึ้นรถผู้ชาย”

ถาม-ตอนไปเดทยังบอกว่าชื่อรันอยู่มั้ยหรือว่าบอกชื่อจริงเราแล้ว 

เชน : “บอกแล้ว”

ถาม-ถามความรู้สึกของผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกันมาก่อน ไม่เคยเดทกับผู้ชายมาก่อนเลย แล้วมาเดทกับผู้ชายคนนี้เป็นยังไงบ้าง 

แพร : “พี่สาวกับที่บ้านยัดเยียดอยากซ้อมเราว่าเป็นยังไงเดทครั้งแรก ตื่นเต้นมากอยู่ในรถกับผู้ชาย 2 คนแล้วไม่เคยคุยกับผู้ชายเลย เรียนหญิงล้วนมา ถามว่ามีเพื่อนผู้ชายมีมั้ย มีแต่เป็นเพื่อน”

เชน : “เพื่อนเขาจะเป็นแนวเด็กช่างกล”

แพร : “มีเพื่อนผู้ชายตอนเรียน ม 4 – ม.5 ไม่คบกับเพื่อนที่ต่างโรงเรียนหรือคนอื่น อันนี้คือคนแรกจริงๆ”

ถาม-จะเรียกว่าตอนนั้นเราเป็นทอมเลยได้มั้ย 

แพร : “ไม่เชิง เหมือนมันเป็นแฟชั่น คือเราเป็นคนชอบเทคแคร์คน ชอบมองผู้หญิงสวย”

ถาม-ตอนอยู่ในรถคุยอะไรกัน 

แพร : “ตอนอยู่ในรถก็นั่งนิ่ง เหงื่อออกเปียกไปหมด ไม่รู้จะคุยอะไร ต้องทำอะไรต่อ ต้องไปกินข้าว ต้องคุยอะไรกัน มันเป็นแบบนั้น”

เชน : “ตอนนั้นของผมก็ถือว่าเดทเพราะตอนนั้นชีวิตมัธยมไม่เคยมีเรื่องความรักเข้ามาสักเท่าไหร่ ชีวิตเราอยู่แต่กีฬา พอได้เจอเขา แล้วเขาเป็นผู้หญิงสวยคนแรกที่ได้คุย เราก็รู้สึกกดดันตัวเองเหมือนกัน แต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้มันผ่อนคลาย เขาจะได้ผ่อนคลาย” 

ถาม-ความสัมพันธ์แบบนี้อยู่นานขนาดไหน ความรักกุ๊กกิ๊กระหว่างคู่คุณ 

เชน : “ไม่ได้กุ๊กกิ๊กเลย พอทานข้าวเสร็จก็พาเขาไปส่งบ้าน แล้วก็กลับต่างคนต่างแยกย้าย” 

ถาม-มีจับมือมั้ย 

เชน : “ไม่มีเลย ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวกันเลย หลังจากนั้นผมก็ไปเรียน แล้วไม่รู้ว่าเขาเป็นนักแสดง เพิ่งเล่นเรื่องแรก เราไม่ได้รู้จักอยู่แล้ว ไม่ได้สนใจก็โทรคุยอย่างเดียว จนขอไปรับที่มหาวิทยาลัยบ้างนิดๆ หน่อยๆ กินข้าว แต่ก็ไม่ติด เศร้า เหงาไป”

ถาม-แล้วทำไมตอนนั้นไม่ติด 

แพร : “เหมือนเราเข้าวงการถ่ายละครก็ต้องใช้ชีวิตในกองถ่าย คือถ่ายทั้งวัน 24 ชั่วโมง ออกป่า ออกเขา คุยกันน้อยลง ก็ห่างๆ กันไป”

เชน : “แทบจะเหลือศูนย์เลย แทบจะไม่ได้คุยกันต่อ” 

ถาม-ต่างคนต่างแยกย้าย 

เชน : “พอเรารู้ว่าเค้ามีแฟนด้วยแหละ”

แพร : “พอเริ่มเข้าวงการเราก็มาคบคนในวงการ” 

ถาม-อันนี้หลังจากกินข้าวในวันนั้น 

แพร : “หลังเป็นปี” 

ถาม-พอเขามีแฟนปุ๊บก็เลยแยก 

เชน : “ก็แยก เราก็หมดโอกาสแล้ว หาจีบคนอื่นต่อไป”

ถาม-แฟนเป็นเพศไหน 

แพร : “ผู้ชายค่ะ”

ถาม-ต่างคนต่างก็ทำงานในเส้นทางของตัวเอง แล้วแพรรู้วีรกรรมของเขาบ้างมั้ย 

แพร : “ตอนนั้นยังค่ะ พอเข้าวงการก็แยกย้าย เค้าก็บ้าฟุตบอลของเขาไป”

เชน : “เจอกันตามที่เที่ยวประปราย”

ถาม-แล้วทักกันมั้ย 

เชน : “ทัก คือหลังจากวันที่รู้ว่าเขามีแฟน เราก็รู้แล้วว่าคนนี้คือเพื่อนเรา เพราะเขาต้องเป็นเพื่อนที่ดีแน่ๆ เราก็เปลี่ยนไม่ไปวุ่นวาย ไม่เจ๊าะแจ๊ะ คนนี้คือเพื่อนเราจริงๆ”

ถาม-เป็นที่ปรึกษาหัวใจกันมั้ย 

เชน : “ตอนหลังๆ” 

ถาม-ใครปรึกษาใคร 

เชน : “ส่วนใหญ่เป็นผมนะ” 

ถาม-พอเริ่มเข้ามาทำงานในวงการ แสดงว่าต่างคนก็ต่างเห็นกันแล้วใช่มั้ย  

เชน : “หลังจากเจอเค้าตอนนั้นผ่านไปอีก 4 ปี ผมเข้าวงการ เราเลยรู้สึกว่าเค้าเข้าก่อนเรา พอเราไปเจอเค้าเราก็ถามว่าเข้ามาแล้วเป็นยังไง ต้องทำยังไง”

ถาม-ตอนนั้นแพรรู้วีรกรรมเจ้าชู้ของเขามั้ย  

แพร : “จริงๆ แล้วตอนที่รู้จักเมื่อ 20 ปีที่แล้ว คือเป็นเด็กใสๆ บ้ากีฬา เค้าจะมีข่าวบ่อยมากเรื่องผู้หญิง ใช่เชนหรอ ก็คิดว่าน่าจะไม่ใช่ สุดท้ายความแสบออกมาหมดเลย”

ถาม-เรื่องอะไรที่เราเซอร์ไพร์สที่สุด 

แพร : “ก็ไปอยู่ในก๊วนแสบๆ ทั้งหลายเนี่ยแหละ”

ถาม-เจ้าชู้ขนาดไหน 

แพร : “ติด 1 ใน 4 ตองอู

เชน : “ไม่ขนาดนั้น คือเราจากคนที่ใช้ชีวิตด้วยการทำกิจกรรมมาโดยตลอด แล้วก็เรียนเที่ยวเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย พอเข้ามาในวงการก็มีแต่สวยหล่อทั้งนั้น เราไม่คุยกับเขา เขาก็มาคุยกับเรา บางทีถ้าเราไม่แข็งแรงพอเราก็จะเลยเถิด หวั่นไหว”

ถาม-เคยคุยพร้อมกันมากสุดกี่คน 

เชน : “ไม่เคยคุยพร้อมกันเยอะๆ คุยแค่ 2 คนก็ปวดหัวแล้ว ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าเราอยากคุยนานๆ ถ้าเราอยากคุยนานๆพร้อมกันทุกคนไม่ได้”

ถาม-เคยนัดประชุมสามสายคืออะไร 

เชน : ผู้หญิงเขานัดคุยกันแล้วโทรหาผม

ถาม-วันนั้นจบยังไง 

เชน : “วางโทรศัพท์เลย ขับรถออกจากบ้านไปหาแฟนตัวจริงๆ เลย”

ถาม-ทำไมวีรกรรมทั้งหมดมาเล่าให้เขาฟัง 

เชน : “ต้องบอกว่าผ่านเวลาไปละกัน 10 กว่าปีแล้ว แล้วมาเจอเขาในงานวันเกิดเรา เป็นโอกาสดีที่ได้มานั่งคุยกับเขาอีกที ภาพเดิมเลย อยู่กับผู้หญิงสองคนเหมือนเดิม เราก็เข้าไปคุยแต่ในลักษณะเพื่อน แต่ความรู้สึกที่มีให้เขาไม่เหมือนเดิมอยู่แล้วเพราะเป็นผู้หญิงที่เราเคยชอบ หลังจากคุยเรารู้สึกสบายใจก็เลยเล่ามันทุกสิ่งทุกอย่างเลย”

ถาม-แสดงว่าตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะคบเป็นแฟน เพราะคนที่สบายใจคบเป็นเพื่อนจะเล่าได้ทุกเรื่องโดยไม่คิดถึงอนาคต 

เชน : “ไม่”

แพร : “ส่วนแพรก็ชัดเจนว่าไม่คบคนในวงการ”

ถาม-ตอนได้ฟังวีรกรรมเขาเราว่าไงบ้าง 

แพร : “ก็ว่าเขา ทำอะไรไว้ก็ต้องรับกรรม เราก็มองเป็นกลางตอนเศร้าเราก็อยู่ข้างๆ อันไหนด่าก็ด่า ผิดก็คือผิด” 

ถาม-อะไรทำให้ตัดสินใจเป็นแฟนกัน 

แพร : “คือช่วงนึงเค้าเฮิร์ท เราก็ให้คำปรึกษา แล้วเราก็รู้จักเค้ามาตั้งแต่อดีต รู้ว่าพื้นฐานเขาไม่ได้เป็นคนแรดขนาดนี้ ที่บ้านเขาเป็นครอบครัวที่น่ารักมาก เขาชอบเล่นกีฬา ชอบในสิ่งที่เราชอบ จนวันนึงเรามองว่าสังคมในวงการทำให้เค้าเปลี่ยนไป  ด้วยระบบความคิดเขาค่อนข้างจะปรับในสิ่งที่เราบอก เขาก็เข็ดในสิ่งที่เขาทำเหมือนกัน แต่เราก็ยังมีความลังเลนะว่าจะเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์มั้ย ก็แอบๆ เปิดลองคุยดูเรื่อยๆ”

ถาม-ใครเริ่มบอกว่าคุยกันมั้ย คบกันมั้ย เป็นแฟนกันมั้ย 

เชน : “ไม่เคย ไม่มีคำนั้นเลย หลายๆ คู่จะมีวันครบรอบ คืออันนี้มีความเป็นเพื่อน 10 กว่าปี ซึ่งผมมั่นใจว่าต้องเกิดขึ้นกับหลายๆ คู่ ที่เราซึมซับความรู้สึกจากความสบายใจที่เราอยู่กับผู้หญิงคนนี้ แล้วผู้หญิงคนนี้ให้คำแนะนำ ให้อะไรเราหลายอย่างมากที่ให้เราปรับตัวจากคนที่ไม่ดี คนที่บางทีก็คิดไม่ได้กลายเป็นคิดได้” 

ถาม-เกือบจะไม่ได้คบกันเพราะจับได้ว่าเขาคุยกับสาวอื่นกี่ครั้ง 

แพร : “จริงๆ 2 ครั้ง แต่มันช่วงเปิดใจ จะศึกษาดูใจแล้ว ลองคบดู แล้วมาเจอแอบคุยไลน์ บอกแล้วว่าไม่ชอบนะ ถ้าคิดจะมาชอบเราแล้วไม่หยุด เขาก็บอกว่าทำตัวดี เราก็เชื่อ วันนั้นเราอยู่ต่างจังหวัดมือถือแพรเปิดเพลงอยู่แล้วแบตหมด เลยขอมือถือเขาต่อบลูทูธ ซึ่งไม่เคยจับโทรศัพท์เขาอยู่แล้ว เด้งมาเลย คิดถึงนะ ทำอะไรอยู่ แล้วอยู่กับเรา แล้วยังไม่ได้เป็นแฟนด้วยนะ เชนทักไปหาเขาก่อน

เชน : “คือโทรศัพท์มันเป็นอะไรที่ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าเขาจะหยิบไปแล้วไปเปิดดูไง”

ถาม-ทำไมถึงคุยกับคนอื่น 

เชน : “คือตอนนั้นเราก็มีความสุขแหละ แต่ด้วยความโง่”

แพร : “ความแรดเลยแหละ”

เชน  : “คือเราไม่รู้จะทักไปเพื่ออะไร เราไม่รู้ทำไปเพื่ออะไร แค่ความนึกสนุกว่าเปิดไลน์มาก็ทักไปเล่นๆ คือตอนนั้นต้องบอกว่าโง่มาก ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร  ไม่มีเหตุผลเลยแล้วทำให้เขาโกรธมาก”

ถาม-แล้วครั้งที่ 2 ล่ะ 

แพร : “ก็ประมาณนี้ เหมือนเดิม ชอบบริหารเสน่ห์ แต่คราวนี้เนียนกว่าเดิมนิ่งๆ แคปไว้ เอามือถือถ่ายไว้”

แล้วทะเลาะกันหนักขนาดไหนตอนนั้นที่บอกว่าเกือบไม่ได้คบกันเรื่องราวเหล่านี้ ?

เชน : “ก็หนัก ใช้เหตุผล คือครั้งที่ 2 มันไม่มีอะไรจริงๆ เขาแค่ไม่ชอบว่าเราไปคุยกับผู้หญิงคนอื่น เราก็พยายามอธิบายเหตุผลกับเขาแล้วต้องไปอธิบายกับแม่เขาด้วย

ถาม-แล้วทำยังไงถึงมี 2 ปีได้ 

เชน : “เราก็เรียนรู้จากความผิดพลาด จากประสบการณ์ที่เขาสอน วันนึงพอเราคิดได้สิ่งเหล่านี้ที่รู้สึกว่ามันไม่คุ้มกันเลย เราเกลียดการทะเลาะ แต่เราสร้างปัญหามาโดยตลอด เพราะฉะนั้นมันไม่ได้แก้ที่เขามันต้องแก้ที่เรา ถ้าเราไม่เริ่มที่จะทำผิดการทะเลาะมันก็จะไม่เกิด เราอยากอยู่กับเขา เราก็ไม่ทำอีก”

แพร : “คือตอนแรกเขาจะไม่ให้จับโทรศัพท์ แต่ตอนนี้เปิดใจ 2 ปี วางโทรศัพท์จับไปเลย”

ถาม-ปกติผู้ชายจะรู้สึกว่าเขาจะไปแล้วค่อยเปลี่ยนจริงมั้ย 

เชน : “ไม่ใช่เขาจะไปแล้ว ไอ้นี่ไปแน่ๆ เขาไปคือไป มันไม่ได้มันพังทุกสิ่งอย่างเลยถ้าเรายังไม่หยุดสิ่งนี้ เรายังไม่หยุดแรดโง่ๆ แบบนี้ แรดอย่างไม่มีชั้นเชิงแบบนี้ เราต้องหยุดทุกอย่างเดี๋ยวนี้ แล้วเราจะมีเขาตลอดไป”

ถาม-แสดงว่าอีกไม่นานจะมีข่าวดี แต่งงานมั้ย 

เชน : “คนถามเข้ามาเยอะ บอกเลยยังไงก็คนนี้ จะพยายามทำทุกอย่างตามขั้นตอนและเร็วที่สุด”

ถาม-จะมีลูกมั้ย 

แพร : “ไม่ได้คิดถึงตรงนั้น ไม่ได้อยากมี ไม่ใช่ว่าแบ่งภาระตัวเองไม่ได้ เหมือนเรื่องความพร้อม ตอนนี้เห็นเพื่อนๆ เริ่มมีลูกกันหมดแล้ว เรารู้แล้วค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ต้องมาคิดเยอะ ก็เลยยังไม่ได้คิดตรงนั้น”

ขอคุณข้อมูลจาก liverpoolworld

ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่