ซาลาห์ เบิ้ลแต่แนวรับเอาไม่อยู่ก่อนมาโดนทีเด็ดฟรีคิกสุดงามของ บรูโน่ ตัวสำรองสุดท้าย แมนฯยูไนเต็ด เบียดเอาชนะ 3-2 เขี่ยลูกทีม คล็อปป์ ร่วง เอฟเอ คัพ
ในนาทีที่ 10 แมนฯยู ได้ลุ้นประตูก่อนในจังหวะที่ เมสัน กรีนวู้ด กระชากบอลหลุดเข้าเขตโทษก่อนที่จะยิงมุมแคบ แต่ไปติดเซฟของ อลีสซอน หวุดหวิด
หลังจากอีกเพียง 8 นาที เป็น ลิเวอร์พูล ได้ออกนำไปก่อน 1-0 เมื่อ ฟีร์มีโน่ ไหลบอลทะลุช่องอย่างสุดสวยให้ ซาลาห์ หลุดเข้ากรอบเขตโทษก่อนที่จะชิพบอลผ่านตัว ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าไปอย่างเหนือชั้น
ในนาที 26 แมนฯยูก็ตามตีเสมอ 1-1 จนได้จากการโต้กลับของ แรชฟอร์ด ได้บอลจากริมเส้นก่อนที่จะเปิดยาวทะแยงไปให้ เมสัน กรีนวู้ด ได้พักอกเอาบอลลงในเขตโทษฝั่งขวาแล้วยิงสวนตัวของ อลีสซอน เบ็คเกอร์ เข้าประตูไปเฉียบขาด
ก่อนหมดเวลา แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสบ้างเมื่อ กรีนวู้ด ได้บอลเปิดจาก แรชฟอร์ด ก่อนไหลให้ ป็อกบา ปั่นด้วยขวาเน้นๆ หน้าเขตโทษ แต่บอลโค้งไม่พอหลุดออกหลังไป จากนั้นจบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
เริ่มครึ่งหลังแค่ 3 นาที แมนฯยู เป็นฝ่ายที่ทำประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะโต้กลับเร็ว เมสัน กรีนวู้ด เปิดบอลโด่งขึ้นหน้า รีส วิลเลี่ยมส์ เตะสกัดโดนไม่ดีบอลไปถึง แรชฟอร์ด ได้หลุดเข้าเขตโทษก่อนจะแปเน้นๆ สวนตัว อลีสซอน เข้าไปอย่างสวย
ในนาที 58 ลิเวอร์พูลตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จเมื่อ มิลเนอร์ ตัดบอลได้ก่อนจะทำชิ่งให้กับ ฟีร์มีโน่ ไหลบอลคืนมา มิลเนอร์ เหมือนจะยิง แต่ข้ามหลอกปล่อยบอลไปถึง ซาลาห์ วิ่งมายิงด้วยซ้ายบอลลอดขาของ เฮนเดอร์สัน เข้าไป
นาที 62 คล็อปป์ ส่ง มาเน่ ลงมาเสริมความอันตรายพร้อมถอด ไวนัลดุม ออกไปพักและให้ เคอร์ติส โจนส์ ถอยต่ำลงไปเล่นกลางอีกครั้ง
ในนาที 68 ลิเวอร์พูลเกือบขึ้นนำจากการประสานงานของ ฟีร์มีโน่ ที่แทงบอลเข้าช่องไปให้ ซาลาห์ ที่ได้หลุดเข้าไปยิง แต่ว่า ดีน เฮนเดอร์สัน ยังป้องกันเอาไว้ได้
ในนาที 78 แมนฯยูได้ประตูขึ้นนำเป็น 3-2 จากฟรีคิกที่ คาวานี่ โดน ฟาบินโญ่ ทำฟาวล์ในหัวกะโหลกก่อนที่ บรูโน่ ที่ลงมาสำรองรับหน้าที่ยิงผ่านกำแพงบอลมุดเสาไกลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด
เจ้าบ้านเกือบได้ประตูในนาทีที่ 89 บรูโน่ เปิดบอลให้ เอดินสัน คาวานี่ ได้ขึ้นโขกบอลลงพื้นก่อนที่จะเด้งชนเสา อาลีสซอน ได้แต่ยืนขาตายในจังหวะนี้
จากนั้น แมนฯยู สามารถปิดเกมได้โดยการเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไป 3-2 ผ่านเข้ารอบไปพบกับ เวสต์แฮม ในระหว่างวันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ โดยจะได้เล่นในบ้านอีกนัด
ติดตามทุกเรื่องราว ข่าวใหม่ๆได้ที่ >>>liverpoolworld<<<
