2 ประตูของ ลิเวอร์พูล ถูก VAR ยึดคืน ก่อนที่VARจะบรรจงมอบจุดโทษที่ 2 ให้ ไบรท์ตันตีเสมอซะอย่างนั้น
เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดทีมแบบไม่เต็มสูบสักเท่าไหร่ในระบบ 4-2-3-1 โดยโฌแอลมาติ๊ปดันมาหายตัวไปอีกคนจนต้องเอาดาวรุ่งอย่างเนโก วิลเลี่ยมส์ กับ แน็ตต์ ฟิลลิปส์ลงตัวจริง
ทาคูมิ มินามิโนะ ได้ลงในตำแหน่ง ‘หน้าต่ำ’ เพื่อให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เป็นหน้าเป้าขนาบด้วย โม ซาล่าห์ และดิโอโก โชต้าส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ซาดิโอ มาเน่ ถูกขังไว้ในซุ้มม้านั่งสำรองก่อน
ไบรท์ตัน เป็นทีมที่เล่นได้แบบ’มีทรง’ อยู่แล้วนะครับโดยจะใช้การเซ็ตบอลจากในแดนตัวเองพลางต่อบอลและทำชิ่งกันห้ำหั่นกับคู่แข่ง
หลังตั้งหลักได้พวกเขาก็เริ่มครองบอลได้มากขึ้นก่อนใช้จังหวะฉาบฉวยเช่นการวางตัดหลังแบ็คเข้าโจมตีลิเวอร์พูล ที่แนวรับดูหลวมๆและมีช่องว่างเข้าจู่โจม
เจ้าถิ่นเล่นกันได้ดีเลยทีเดียวการรับส่งบอลแม่นยำทั้งสั้นและยาวแต่ปัญหาที่อยู่คู่ทีมนวลนางแดนใต้มาตลอดคือไม่มีความเด็ดขาด
บ่อยครั้งที่เล่นดีมีโอกาสแล้วดันปล่อยให้หลุดลอยไปในอวกาศขนาดได้จุดโทษและมีโอกาสขึ้นนำก่อนยังอุตส่าห์เอามันไปโยนทิ้งลงโถส้วมเลยครับคุณ
นอกจากโทษความเถรตรงเกินไปของการตัดสิน รวมถึงความเฮงซวยของ VAR แล้ว ลิเวอร์พูล คงต้องโทษตัวเองด้วยที่เล่นไม่ค่อยดีนัก และยิงประตูที่ 2 เพิ่มไม่สำเร็จ
กระนั้นยังขอยกตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ให้ VAR นี่แหละ สมแล้วที่โดนทัวร์ลงไปตามระเบียบ แถมทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรยังต้องมาโดนหางเลขไปด้วย
ขอบคุณรูปภาพจาก >> siamsport <<
ติดตามข่าวอื่นๆ ได้ที่ >>liverpoolworld <<
ติดตามข่าวเพิ่มเติมได้ที่>>>>ดูบอล,ดูบอลออนไลน์<<<<