รีวิว เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน

0
137

รีวิว เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน กินนอนในเขื่อน 3 วัน 2 คืน

รีวิว เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน

รีวิว เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน กินนอนในเขื่อน 3 วัน 2 คืน สวัสดีนักท่องเที่ยวทุกคนนะค่ะ เผลอแปปเดียวก็ใกล้จะปีใหม่อีกแล้ว คาดว่าหลายๆคนคงวางแผนหาสถานที่พักผ่อนดีๆกันแล้วใช่ไหมค่ะ วันนี้ liverpoolworld ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่เหมาะกับการพักผ่อนอย่างดีเลยที่เดียว นั่นก็คือ เขื่อนรัชชประภา นั่นเอง หรืออีกชื่อหนึ่งที่หลายๆคนรู้จักนั่นก็คือ เขื่อนเชี่ยวหลาน สถานที่นี้ที่เขาเรียกกันว่าเป็น กุ้ยหลินเมือไทย นั่นเองค่ะ

รีวิว เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน

รีวิว เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน กินนอนในเขื่อน 3 วัน 2 คืนเขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อก่อนสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”

เขื่อนรัชชประภา สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานีโดยพื้นที่ส่วนใหญ่ติดอุทยานแห่งชาติเขาสกเกือบทั้งหมด เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง มีความจุ 5,638.8 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 3,057 ล้านลูกบาศก์เมตร ติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้า เครื่องละ 80,000 กิโลวัตต์ จำนวน 3 เครื่อง รวมกำลัง การผลิต 240,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละประมาณ 554 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

เขื่อนรัชชประภา เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน พ.ศ. 2530 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนรัชชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2530 แต่เดิมนั้นสามารถเดินทางได้โดยจาก อำเภอพนม แต่เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีความสลับซับซ้อนประกอบด้วยเหวจำนวนมากเส้นทางดังกล่าวจึงต้องปิดตัวลงโดยปัจจุบันสามรถเดินทางโดยผ่านอำเภอบ้านตาขุน เขื่อนรัชชประภา เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคใต้ ที่สร้างความมั่นคงให้แก่ระบบไฟฟ้า และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศชาติ นอกจากนี้ยังเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2530 และพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ในปี พ.ศ. 2531

รีวิว เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน

กว่า 30 ปีที่ผ่านมา เขื่อนรัชชประภาได้ยืนหยัดทำหน้าที่เป็นเขื่อนสารพัดประโยชน์ให้กับคนในพื้นที่ภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็น แหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า เป็นแหล่งกักเก็บน้ำในฤดูฝนเพื่อการเพาะปลูก ช่วยบรรเทาอุทกภัย ลดความรุนแรงของสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ตอนล่าง และช่วยแก้ไขน้ำเสียและผลักดันน้ำเค็ม อีกทั้งอ่างเก็บน้ำของเขื่อนฯ ก็ยังเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญ ช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งตัวเขื่อนอยู่ภายใต้การดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต

เริ่มเดินทางไปเขื่อนเชี่ยวหลานกันด้วยสถานีหัวลำโพง รถไฟออกเวลา 17.05 เป๊ะๆค่ะ พวกเรามากันก่อนเวลา ก็เลยหาอะไรกินกันก่อน

รีวิว เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน

ขึ้นรถไฟมาแล้ว เป็นรถไฟตู้นอนปรับอากาศชั้น 2 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมงกว่าๆ เสียค่ารถไฟไปคนละ 733.33 บาทค่ะ ไม่ต้องห่วงว่าขึ้นไปแล้วจะไม่มีอะไรกินนะคะ บนรถไฟเดินขายของกันสนุกสนานเลยค่ะ ข้าวกล่องละ 50 บาทพอถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงที่อำเภอพุนพิน ถึงประมาณ 04.00 น. อาจจะเลทจากเวลาที่บอกนิดหน่อย จากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีไปที่ท่าเรือ เพื่อไปเขื่อนเชี่ยวหลาน แถวๆสถานีรถไฟจะมีรถตู้แต่เช้าตรู่เลยนะคะ นั่งรถตู้ไปไม่นานก็ถึงเขื่อนแล้วค่ะ เขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน นั่นเอง มุมจากด้านบนสวยมากเลยค่ะ

เราต้องโทรนัดกับทางที่พักก่อนนะคะ ว่าจะมาถึงท่าเรือประมาณกี่โมง แล้วก็จะมีเรือมารับค่ะ เราเลือกจองห้องแบบแคปซูล แพคเกจ 3 วัน 2 คืน ราคาคนละ 3600 บาทค่ะ พักกัน 6 คน แยกเป็น 2 ห้อง มีเรือคายักให้พายเล่นด้วยนะคะ วางเงินมัดจำไม้พายอันละ 200 บาท พายไปถึงไหนก็ได้ค่ะถ้ามีแรงพาย แต่ต้องเผื่อแรงไว้พายขากลับด้วยนะ

แพภูตะวัน เขื่อนเชี่ยวหลาน

กฎระเบียบในการเข้าพักที่นี่นะคะ ใช้ไฟได้ช่วง 6โมงเย็น – 6 โมงเช้า ตรงเค้าท์เตอร์ด้านหน้ามี Wifi ให้เล่นด้วยนะคะ มาดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ ก่อนหน้านี้ถามทางแพว่ามีห้องน้ำในตัวด้วยรึเปล่า พี่เค้าก็บอกว่ามี แต่จริงๆแล้วมันเป็นห้องน้ำรวม อารมณ์ประดุจเข้าค่ายเนตรนารีกันอีกครั้ง ห้องน้ำมีทั้งหมด 2 ฝั่งค่ะ ฝั่งที่ใกล้ๆกับเราถือว่าใช้ได้เลย แต่อีกฝั่งน่ากลัวไปนิดนึง เวลาไปก็ชวนเพื่อนไปด้วยนะคะ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เช้าวันที่ 2 ตื่นกันแต่เช้าเลยค่ะ เราต้องนั่งเรือไปเที่ยวตอน 8.00น. พอ 7.30 ก็มากินข้าวเช้าที่ทางแพจัดเตรียมไว้ให้ มื้อเช้าเป็นข้าวผัด แล้วก็ผัดหมี่ ท่านใดที่ชอบหิวดึกๆ เราแนะนำว่า ติดมาม่ามาด้วยก็ดีนะค่ะ เพราะในแพไม่มีบริการร้านค้าใดๆ ดีที่มีน้ำร้อนให้ตลอดทั้งวันทั้งคืน และท่านใดที่สูบบุหรี่ ซื้อเผื่อไว้ก่อนลงเรือมาก็ดีน่ะค่ะ อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า ที่แพไม่มีบริการร้านค้าใดๆทั้งสิ้น

หลังจากทานข้าวเช้าไปเรียบร้อย ก็ได้เวลาเรือมาพอดี ไปดูเขาสามเกลอ หรือที่รู้จักกันว่า กุ้ยหลินเมืองไทย เดินทางตอนเช้าอากาศดีมากๆ ระหว่างเดินทางวิวดีมากๆ บรรยากาศรอบๆเป็นธรรมชาติ เงียบสงบ ต้องมาลองสัมผัสสักครั้งนึงค่ะ

ใช้เวลาถ่ายรูปแป๊บนึงแล้วก็ไปถ้ำปะการังกันต่อค่ะ แต่ว่าก่อนจะถึงถ้ำเราต้องเดินป่าเพื่อไปนั่งเรือแพต่อไปที่ถ้ำ ก่อนเดินพี่คนขับเรือก็แจกน้ำให้พวกเราคนละขวด ระยะทางการเดิน 1 กิโลเมตร เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันค่ะ เพราะว่าทางเดินก็ชันพอสมควร แต่ก็ถือว่าออกกำลังกายไปด้วย ใครที่คิดว่าจะเดินป่าก็อย่าลืมพกรองเท้าผ้าใบมาด้วยนะคะ ถ้ำนี้ชื่อว่า “ถ้ำปะการัง” ของดีเขื่อนเชี่ยวหลาน ค่ะ พี่เค้าบอกว่าเป็นถ้ำที่ยังงอกได้อยู่ งอกปีละ 3 มิลลิเมตร ข้างในสวยมากๆค่ะ เมื่อเดินทางมาถึงถ้ำ ภายในถ้ำจะมีหินลักษณะเป็นปะการัง

ชมถ่ำชมวิวกันไปแล้วก็ถึงเวลากลับที่พักไปทานอาหารมื้อเย็น ที่ทางแพเตรียมไว้ให้ เช้าวันต่อมาก็ถึงเวลากลับขากลับเรานั่งรถตู้ที่ติดต่อไว้ตรง Information ที่ท่าเรือเมื่อวันมา นั่งไปสนามบินราคาเหมา 1,600 บาท ประมาณ 40 นาทีก็ถึงแล้ว

จบแล้วสำหรับทริปนี้ liverpoolworld หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้ใครหลายๆคนที่กำลังจะวางแผนไปเที่ยวกับครอบครัวหรือคนที่รัก ให้เขื่อนเชี่ยวหลานเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคุณนะค่ะ ยังไงเดินทางไกลก็ขับรถระมัดระวังกันด้วยน่ะค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก groottravel.com/

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่